ประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Virgin Coconut Oil )
ด้านสุขภาพ
1. การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายย่อยและดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้เร็วและง่ายกว่าน้ำมันชนิดอื่น
นิยมใช้ในการหุงต้มอาหารให้คนไข้ที่มีปัญหาการย่อยไขมัน และยังใช้ผสมในน้ำนม เพื่อให้ไขมันที่จำเป็นแก่เด็กทารก และช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และแมกนีเซียม
ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนากระดูก
2. ลดอัตราการเกิดโรคไม่ติดเชื้อ
2.1 โรคหัวใจ : น้ำมันมะพร้าวมีคอเลสเตอรอลน้อยกว่าน้ำมันอื่นๆ
ปราศจาก trans fatty acids ซึ่งเป็นตัว ทำให้เกิดลิ่มเลือด
ที่ไปอุดตันหลอด
เลือด และยังมีวิตามินอีที่ช่วยขยายหลอดเลือดและป้องกันการแข็งตัวของเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจ นักโภชนาการสมัยใหม่จึงสรุปว่า
น้ำมันมะพร้าวช่วยทำให้หัวใจมีสุขภาพดี เพราะเป็นหนึ่งในสองชนิดของน้ำมันบริโภค ซึ่งช่วยลดความหนืด
(stickiness)
ของเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
2.2 โรคมะเร็ง : เนื่องจากน้ำมันมะพร้าว
(1) เป็นน้ำมันชนิดอิ่มตัวจึงไม่ถูกเติมไฮโดรเจน (hydrogenate) และแตกตัวเมื่อถูกกับอุณหภูมิสูง
(2)
มีวิตามินอีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการกลายพันธุ์ของยีนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเซลล์มะเร็ง
รวมถึงมะเร็งที่ผิวหนังด้วย มีสรรพคุณดีกว่ายาทากันแดดราคาแพง
2.3 โรคอ้วน : การบริโภคน้ำมันมะพร้าวจะช่วยทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูง
(ในขบวนการ thermogenesis)
ทำให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหาร หรือเมตาบอลิซึม (metabolism) สูงเกิดเป็นพลังงานสำหรับใช้ในการดำรงชีวิต และยังช่วยทำลายไขมันที่ร่างกายสะสมอยู่ไปใช้เป็นพลังงาน
จึงไม่อ้วน
2.4 โรคเบาหวาน : ผลพลอยได้ของการเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานจากการบริโภคน้ำมันมะพร้าวทำให้ร่างกายไม่สะสมน้ำตาลด้วย เพราะถูกใช้ไปเป็นพลังงานหมด อีกทั้งยังไม่ทำให้ผู้ป่วยอยากรับประทานอาหารที่เป็นแป้งหรือน้ำตาล จึงช่วยลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานไปได้โดยปริยาย
2.5 โรคปวดเมื่อย โรคชราภาพก่อนวัย โรคมะเร็งผิวหนัง และโรคกระดูก : น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ถูกดูดซึมเข้าทางผิวหนังได้ดี เพราะมีขนาดของโมเลกุลเล็กจึงนิยมใช้นวดตัวให้หายปวดเมื่อย
และผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังปกป้องการทำลายของแสงอัลตราไวโอเลตที่ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่ก่อนวัย และเป็นมะเร็งผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกให้แข็งแรง แพทย์แผนไทยจึงนิยมนำน้ำมันมะพร้าว มาประกอบเป็นสูตรยาแผนโบราณในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระดูก อันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุ
3. ช่วยให้ร่างกายปลอดจากโรคติดเชื้อ
กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าว มีภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกับสาร cholostum ในน้ำนมมารดา
ซึ่งเมื่อเข้าไปในร่างกายก็เปลี่ยนไปเป็นสารโมโนลอริน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะ ปัจจุบันวงการแพทย์สมัยใหม่ได้แนะนำให้ประชาชนกินยาเม็ดที่มีโมโนลอรินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
4. การรักษาโรค
ตำราอายุรเวทของอินเดียใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรคมาไม่ต่ำกว่า
4,000 ปี แพทย์แผนไทยใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรคทั้งภายในและภายนอก เช่น ในตำราพระโอสถพระนารายณ์ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาได้ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นยานวดแก้ปวดเมื่อย
เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่ามะพร้าวบ้านเรามีคุณค่ามหาศาล
วิธีใช้
1. รับประทาน ครั้งละ 1 ชต. (3 ครั้งต่อวัน) / ก่อนอาหาร 15 นาที ( หรือ..เช้าตอนท้องว่าง ) ตามด้วยน้ำอุ่น 1-2 แก้ว
2. ผสมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 3-4 หยดใ นเครื่องดื่ม
เช่น ชา กาแฟ โกโก้ นม ฯลฯ
3. ใช้ปรุงอาหาร เติมในอาหาร หรือใช้ในการผัด ทอด
แทนน้ำมันพืชชนิดไขมันไม่อิ่มตัว
** ข้อห้าม - ไม่ควรกินก่อนนอน / และไม่ควรกินหลัง 18.00 น. **
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
** ข้อห้าม ** 1) ห้ามกินก่อนนอน
2) มื้อเย็น / ห้ามกินหลังเวลา 18.00 น. --